วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ขนมไทยที่ทำมาจากถั่วเขียว


ขนมไทยที่ทำมาจากถั่วเขียว





ถั่วเขียว

ถั่วเขียว (Green Bean หรือ Mung Bean) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Phaseolus aureus L. เป็นพืชในตระกูลถั่ว เช่นเดียวกับถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วแขก และถั่วพู มีถิ่นกำเนิดในประเทศแถบอินเดีย พม่า อินโดนีเซีย และไทย มีลักษณะเป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก อายุประมาณ 1 ปี ลำต้นตั้งตรง สูงประมาณ 40 เซนติเมตร มีขนตามลำต้น กิ่ง ก้าน และใบ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก มี 3 ใบย่อย ลักษณะใบเป็นใบตั้ง รูปใข่ บ้างก็คล้ายรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ช่อดอกเป็นแบบช่อกระจะ ลักษณะดอกเหมือนดอกถั่วทั่วไป เป็นสีเหลือง ส่วนเมล็ดมีสีเขียวรูปกึ่งกลม โดยส่วนใหญ่แล้วถั่วเขียวมักถูกนิยมนำมาทำเป็นแป้ง วุ้นเส้น หรือนำไปนึ่งให้สุกแล้วกวนเป็นขนม นอกจากนี้ก็ยังนิยมนำไปเพาะเป็นต้นอ่อน หรือที่เรียกว่าถั่วงอก เพื่อนำมาปรุงเป็นอาหารอีกด้วย โดยถั่วงอกจะมีปริมาณวิตามินซีที่มากกว่าถั่วเขียวที่เป็นเมล็ด
ถั่วเขียว เป็นธัญพืชที่นิยมนำมาทำเป็นอาหารทั้งคาวและหวาน แถมยังสามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มได้อีกด้วย
          - ถั่วเขียวต้มน้ำตาล สูตรขนมหวานโปรตีนสูงจากธัญพืชต้นทุนต่ำ
          - ขับพิษ แก้ร้อนในด้วยน้ำถั่วเขียว
          - ถั่วเขียวต้มน้ำเก๊กหล่อ ขนมหวานโปรตีนเลอค่า รสเข้มจากพลังสมุนไพร
          - บัวลอยถั่วเขียว ขนมไทยหน้าฝนของคนรักสุขภาพ
          - ขนมถั่วกวน ขนมไทยสุดง่ายกับวัตถุดิบแค่ 3 อย่าง
          - เต้าส่วน ขนมไทยทำง่าย อุปกรณ์น้อย อร่อยเหนียว ๆ
          - ซุปถั่วเขียว โปรตีนจากถั่วสำหรับกรุ๊ปเลือด A
          - ลูกชุบหลากสี ขนมไทยสีสวยชวนรับประทาน

ความสำคัญของขนมไทย
ขนมจัดเป็นอาหารที่คู่สำรับกับข้าวไทยมาตั้งแต่ครั้งโบราณ โดยใช้คำว่าสำรับกับข้าวคาว-หวาน โดยทั่วไป ประชาชนจะทำขนมเฉพาะในงานเลี้ยง  นับตั้งแต่การทำบุญเลี้ยงพระ งานมงคลและงานพิธีการ อาหารหวานที่จัดเป็นสำรับจะต้องประกอบด้วย  ของหวานอย่างน้อย 5 สิ่ง   ซึ่งต้องเลือกให้มีรสชาติ สีสัน ชนิด   ตลอดจนลักษณะที่กลมกลืนกัน แต่ละสำรับจะต้องมีผลไม้ 10 ที่ และขนมเป็นน้ำ 1 ที่เสมอ
ขนมไทย เป็นเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยอย่างหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันดี  เพราะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนประณีตในการทำตั้งแต่วัตถุดิบ วิธีการทำ ที่กลมกลืน พิถีพิถัน ในเรื่องรสชาติ สีสัน ความสวยงาม กลิ่นหอม   รูปลักษณะชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีการับประทาน  ขนมแต่ละชนิด ซึ่งยังแตกต่างกันไปตามลักษณะของขนมชนิดนั้น ๆ
ขนมไทยที่นิยมทำกันทุก ๆ ภาคของประเทศไทย  ในพิธีการต่าง ๆ  เนื่องในการทำบุญเลี้ยงพระก็คือขนมจากไข่ และมักถือเคล็ดจากชื่อและลักษณะของขนมนั้น ๆ  งานสิริมงคลต่าง ๆ  เช่น งานมงคลสมรส ทำบุญวันเกิด หรือทำบุญขึ้นบ้านใหม่  ส่วนใหญ่ก็จะมีการเลี้ยงพระกับแขกที่มาในงาน เพื่อเป็นสิริมงคลของงานขนมก็จะมีฝอยทอง  เพื่อหวังให้อยู่ด้วยกัน ยืดยาวมีอายุยืน ขนมชั้น ก็ให้ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน  ขนมถ้วยฟูก็ขอให้เฟื่องฟู ขนมทองเอกก็ขอให้ได้เป็นเอก เป็นต้น

ลักษณะของขนมไทย
ขนมไทย สามารถจัดแบ่งเป็นชนิดต่าง ๆ ได้ตามลักษณะของเครื่องปรุง ลักษณะกรรมวิธีในการทำ และลักษณะการหุงต้ม คือ
     1. ขนมประเภทไข่ เช่น ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด สังขยา ฯลฯ
2. ประเภทนึ่ง เช่น ขนมชั้น ขนมสาลี่ ขนมน้ำดอกไม้ ขนมทราย ฯลฯ
3. ขนมประเภทต้ม เช่น ขนมต้มแดง ขนมต้มขาว มันต้มน้ำตาล ฯลฯ
4. ขนมประเภทกวน เช่น ขนมเปียกปูน ซ่าหริ่ม ขนมตะโก้ ฯลฯ
5. ขนมประเภทอบและผิง เช่น ขนมดอกลำดวน ขนมบ้าบิ้น ขนมหน้านวล ฯลฯ
6. ขนมประเภททอด เช่น ขนมกง ขนมฝักบัว ขนมสามเกลอ ฯลฯ
7. ขนมประเภทปิ้ง เช่น ข้าวเหนียวปิ้ง ขนมจาก ฯลฯ
8. ขนมประเภทเชื่อม เช่น กล้วยเชื่อม สาเกเชื่อม ฯลฯ
9. ขนมประเภทฉาบ เช่น เผือกฉาบ กล้วยฉาบ มันฉาบ ฯลฯ
10. ขนมประเภทน้ำกะทิ เช่น เผือกน้ำกะทิ ลอดช่องน้ำกะทิ ฯลฯ
11. ขนมประเภทน้ำเชื่อม เช่น ผลไม้ลอยแก้ว วุ้นน้ำเชื่อม ฯลฯ
12. ขนมประเภทบวด เช่น กล้วยบวดชี แกงบวดเผือก ฯลฯ
13. ขนมประเภทแช่อิ่ม เช่น มะม่วงแช่อิ่ม มะเขือเทศแช่อิ่ม สะท้อน



ขนมไทยที่ทำจากถั่วเขียว

ขนมถั่วแปป



ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 55 กรัม
น้ำลอยดอกกุหลาบ 50 กรัม
ถั่วเขียวซีกนึ่งสุก 1/2 ถ้วย
มะพร้าวขูด 1/2 ถ้วย
เกลือ 1/4 ชช

วิธีทำ
1.  เตรียมทุกอย่าง น้ำลอยกลีบ กุหลาบ เราแช่ปิดฝาข้ามคืน พอจะใช้เอากลีบกุหลาบออก ถั่วเขียวซีกแช่น้ำ 5 ชม แล้วนำมานึ่งสุก มะพร้าวขูดเรานึ่ง 5 นาที คลุกเกลือ งาขาวนำไปขั้วให้บุบเล็กน้อย
2.    ค่อยๆเทน้ำลงบนแป้งและคลุกให้เข้ากัน
3.  พอคุกเข้ากันแล้วแบ่งสามส่วน นำสีน้ำมาหยด1-2หยดผสมนวดให้เข้ากัน
4. แบ่งสีละ 2 ก้อนๆ ล่ะ 15 กรัม เป็นรีๆแล้วกดแบน น้ำไปต้มในน้ำเดือด จะเห็นว่าพอสุกแป้งจะลอยตัวขึ้นมา
5.   ตักขึ้นมาแช่ในน้ำเย็น เพื่อไม่ให้ตัวแป้งติดกัน
6. พอแป้งที่ต้มหายร้อน นำขึ้นจากน้ำ มาคลุกกับ มะพร้าวและถั่วเขียวซีกที่คลุกกันไว้ แล้วโรยน้ำตาลและงาขาวที่ผสมไว้ค่ะ พร้อมเสริฟ 

ขนมเม็ดขนุน



ส่วนผสม
น้ำตาลทราย 200 กรัม (สำหรับผสมถั่ว)
 น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำเชื่อม)
น้ำกะทิ 400 กรัม
น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำเชื่อม)
 ไข่เป็ด 5 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง)
 ถั่วเขียวเลาะเปลือก 450 กรัม

วิธีทำ
1. นำถั่วเขียวเลาะเปลือกมาทำความสะอาด และแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำไปนึ่งให้สุก     ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)
2. เมื่อถั่วเขียวสุกดีแล้ว ให้นำไปใส่ในเครื่องปั่นไฟฟ้า พร้อมกับน้ำตาลทรายและน้ำกะทิ ปั่นจนส่วนผสม     ทั้งหมดเข้ากันดี
3. จากนั้นจึงเทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเทฟลอนก็ได้)และตั้งบนไฟอ่อนๆ         ค่อยๆกวนจนข้นและเหนียว (ใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาที) จึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น (ถั่วต้องแห้ง มิ     เช่นนั้นจะไม่สามารถนำไปปั้นได้)
4. ก่อนปั้นให้นวดส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงปั้นให้เป็นรูปทรงเม็ดขนุน
5. ทำน้ำเชื่อมโดยผสมน้ำตาลและน้ำเปล่า นำไปเคี่ยวในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเทฟลอน      ก็ได้) จนเหนียวข้นเป็นยางมะตูม จึงปิดไฟ
6. ตอกไข่และเลือกเอาเฉพาะไข่แดงมารวมกัน เขี่ยพอให้ไข่แดงแตก จากนั้นจึงนำเม็ดขนุนที่ปั้นเตรียม     ไว้ใส่ลงไปแช่ในไข่แดงทีละเม็ด แล้วจึงนำไปใส่ในน้ำเชื่อม พยายามอย่าให้ติดกัน พอใส่ลงไปมาก          แล้วจึงนำกระทะไปตั้งบนไฟอ่อนๆจนสุกทั่งจึงตักออกมาพัก ทำซ้ำเช่นนี้จนเม็ดขนุนที่ปั้นไว้หมด
7. จัดเม็ดขนุนใส่จาน





 ขนมพระพาย 


         
ส่วนผสม
ส่วนผสมแป้ง
แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม
แป้งข้าวเจ้า 30 กรัม
กะทิสด 120-140 กรัม
สีผสมอาหาร ตามชอบ
ส่วนผสมไส้
ถั่วเขียวเลาะเปลือก(ถั่วทอง) 100 กรัม
กะทิ 120-140 กรัม
น้ำตาลทรายขาว (ตามสูตร) ไม่ชอบหวานปรับเหลือ 75 กรัม 100 กรัม
วิธีทำ
วิธีทำแป้ง
1.   เตรียมอ่างผสม ผสมแป้งทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน ค่อยๆเทกะทิ นวดแป้งจนนุ่มมือ นวดนานประมาณ10 นาที
2. เมื่อแป้งนุ่มเนียนดีแล้ว จึงแบ่งมาผสมสีอ่อนๆ พักไว้
วิธีทำไส้
1.   แช่ถั่วในน้ำร้อนหรืออุ่น 3 ชั่วโมงหรือแช่ในน้ำเปล่าปกติทิ้งไว้ 1 คืน นำมาล้างจนสะอาด 2-3 ครั้ง นึ่งในลังถึงที่น้ำเดือดจัดจนสุก และโขลกถั่วจนละเอียด
2.  ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลางถึงอ่อน ผสมถั่วที่โขลก น้ำตาลทราย กะทิลงไป คล้ายการทำถั่วกวน กวนจนพอแห้งปั้นได้ ยกลงแล้วปั้นเป็นก้อนกลมๆขนาดเหรียญ 50 สตางค์พักไว้
3.  นำแป้งที่เตรียมไว้ ปั้นเป็นก้อนกลมๆ แผ่ใส่ไส้ที่เตรียมไว้ หุ้มแป้งคลึงเป็นก้อนกลมๆ นำมาวางบนใบตองที่ตัดไว้เป็นทรงกลม นึ่งบนลังถึงน้ำเดือดจัดไม่เกิน 5 นาทียกลง หยอดด้วยหัวกะทิสด

ขนมลูกชุบ


ส่วนผสม
1. ถั่วเขียวแกะเปลือก 1 ถ้วย
2. กะทิ 1 ถ้วย
3. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
4. เกลือ ครึ่งช้อนชา
5. สีผสมอาหาร
6.ผงวุ้น
วิธีทำ
1.นำถั่วที่แกะเปลือกแล้วล้างให้น้ำใส แล้วไปแช่น้ำ ประมาณ 2-3 ชม แล้วนำถั่วมานึ่งจนสุก
2.นำถั่วที่นึ่งแล้วมาปั่น พร้อมกะทิ น้ำตาล เกลือ ปั่นรวมกัน
3.พอปั่นเสร็จ ตักใส่กะทะ เคี้ยวจนเหนียว ไฟอ่อนนะ ดูจนเหนียวปั้นได้ไม่เหลว
4. พอได้ที่แล้วตักใส่ถ้วยทิ้งไว้จนเย็น จึงปั้นเป็นรูปต่างๆตามชอบ ผลไม้ต่างๆ ปั้นแล้วชุบสี ทิ้งไว้ให้สีแห้ง แล้วจึงชุบวุ้น จากนั้นตกแต่งด้วยใบไม้ ก้านไม้ ให้สวยงาม พร้อมเสริฟ


จัดทำโดย


นายไกรวิชญ์   ศรีเทพ  เลขที่ 15 

นายกรีฑาวุธ   มวยดี   เลขที่ 11 

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2
โรงเรียนสินปุนคุณวิชญ์
















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น